“นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PRIVACY POLICY)”
บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานสำคัญในความเป็นส่วนตัว บริษัทฯ เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ถือหุ้น กรรมการ พนักงาน พันธมิตร คู่ค้า ลูกค้า ผู้รับจ้าง และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทฯ
เพื่อให้บุคคลดังกล่าวมั่นใจได้ว่า จะได้รับความคุ้มครองอย่างครบถ้วนตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 บริษัท ฯ จึงได้ประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคล โดยครอบคลุม วิธีการที่บริษัทและบริษัทย่อย ปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ การเปิดเผย รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น ดังนี้
- คำนิยาม
-
“บริษัทฯ” หมายถึง บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) บริษัทย่อยทุกแห่ง และบริษัทร่วมทุนที่ถือหุ้นมากกว่า 50%
-
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดา ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม
-
“ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” หมายถึง โดยเฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
-
“ข้อมูลชีวภาพ” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดจากการใช้เทคนิคหรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการนำลักษณะเด่นทางกายภาพหรือทางพฤติกรรมของบุคคลธรรมดามาใช้ทำให้สามารถยืนยันตัวตนของบุคคลธรรมดานั้นที่ไม่เหมือนกับบุคคลอื่นได้ เช่น ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ข้อมูลจำลองม่านตา หรือข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ
-
“บุคคล” หมายถึง บุคคลธรรมดา
-
“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” (Data Controller:DC) หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
-
“ผู้ประมวลผลข้อมูล” (Data Processor:DP) หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
- แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจาก กรรมการ ผู้ถือหุ้น นักลงทุน พนักงาน ผู้สมัครงาน บริษัทจัดหางาน ลูกค้าหรือคู่ค้าของบริษัทฯ ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัทฯ อาทิ กิจกรรมด้านการขายและการตลาด กิจกรรมด้านการผลิตและทดสอบ กิจกรรมด้านบัญชีและการเงิน กิจกรรมด้านการลงทุน กิจกรรมด้านการจ้างเหมา เป็นต้น หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ มีสิทธิเก็บรวบรวมไว้ได้ตามกฎหมาย
- การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
3.1 บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลจากแหล่งที่มา ดังนี้
- 3.1.1 เก็บรวบรวมโดยตรงจากเจ้าของข้อมูล เช่น การกรอกข้อมูลโดยเจ้าของข้อมูลผ่านแบบฟอร์มในรูปแบบกระดาษหรือรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์
- 3.1.2 เก็บรวบรวมจากแหล่งอื่น เช่น ได้รับจากบุคคลภายนอกภายใต้ความยินยอมที่เจ้าของข้อมูลให้ไว้ต่อผู้เปิดเผยข้อมูล หรือจากผู้ประมวลผลข้อมูลที่บริษัทฯ มีคำสั่งให้ทำการเก็บรวบรวมแทนหรือในนามของบริษัทฯ
3.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวม
- 3.2.1 ข้อมูลเฉพาะบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด สัญชาติ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนหรือเอกสารอื่น ๆ ที่สามารถระบุตัวตนได้ซึ่งออกให้โดยหน่วยงานของรัฐ
- 3.2.2 ข้อมูลสำหรับการติดต่อ เช่น ที่อยู่ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ เลขที่บัญชีธนาคาร
- 3.2.3 ข้อมูลที่เกี่ยวเนื่องกับการใช้งานเว็บไซต์ เช่น ข้อมูล IP ADDRESS ข้อมูลคุกกี้ (COOKIES)
- 3.2.4 ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว เช่น ศาสนา ข้อมูลสุขภาพ ประวัติอาชญากรรม
- 3.2.5 ข้อมูลอื่น ๆ ที่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การบันทึกเสียง ภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหวจากกล้องวงจรปิด ลายนิ้วมือ
3.3 หลักเกณฑ์การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลไว้ โดยบริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ในกรณีดังต่อไปนี้ บริษัทฯ สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยไม่ต้องขอความยินยอม
- 3.3.1 เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุ เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติ โดยบริษัทฯ จะจัดให้มีมาตรการป้องกันเหมาะสม เพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูล
- 3.3.2 เพื่อป้องกัน หรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
- 3.3.3 เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลก่อนเข้าทำสัญญา
- 3.3.4 เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบหมายให้แก่บริษัทฯ
- 3.3.1 เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล
- 3.3.5 เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต พ.ศ. 2559 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือประมวลกฎหมายอาญา เป็นต้น
- วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะทำการเก็บรวบรวม หรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล เพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานของบริษัทฯ เช่น การจัดซื้อจัดจ้าง การทำสัญญา การทำธุรกรรมทางการเงิน การดำเนินกิจกรรมบริษัทฯ การติดต่อประสานงานต่าง ๆ หรือเพื่อปรับปรุงคุณภาพการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น การจัดทำฐานข้อมูล วิเคราะห์และพัฒนากระบวนการดำเนินงานของบริษัทฯ และเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่ไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย และ/หรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ จะจัดเก็บและใช้ข้อมูลดังกล่าวตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลหรือตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น
บริษัทฯ จะไม่กระทำการใด ๆ แตกต่างจากที่ระบุในวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูล เว้นแต่
- (1) ได้แจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ให้แก่เจ้าของข้อมูลทราบ และได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล
- (2) เป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
- การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งบริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมไว้ ไม่ว่าในเวลาใด บริษัทฯ จะปฏิบัติการตามหลักการและแนวทางดังต่อไปนี้
5.1 บริษัทฯ จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้เท่านั้น
5.2 สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ สามารถเก็บรวบรวมได้โดยไม่ต้องรับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามรายละเอียดที่ระบุใน ข้อ 3.3 บริษัทฯ จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเฉพาะเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุใน ข้อ 3.3 เท่านั้น และบริษัทฯ จะทำการบันทึกการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไว้ในบันทึกเกี่ยวกับการดำเนินการเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ (Record of Processing Activities – RoPA)
5.3 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ
- 5.3.1 ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ บริษัทฯอาจมอบหมายให้บุคคลอื่นนอกเหนือจากบุคลากรของบริษัทฯ เป็นผู้ดำเนินการงานบางประเภทตามคำสั่งและขอบเขตงานที่กำหนดโดยบริษัทฯ โดยในการดำเนินการงานดังกล่าว หากบุคคลดังกล่าวต้องมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งบริษัทฯ ได้จัดเก็บไว้เพื่อใช้ประกอบการปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายตามคำสั่งของบริษัทฯ เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่บริษัทฯ กำหนดแล้ว บุคคลดังกล่าวมีสถานะเป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ
- 5.3.2 ในการมอบหมายให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น บริษัทฯ ต้องกำหนดให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ต้องปฏิบัติการตามคำสั่งและเงื่อนไขการปฏิบัติงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายและมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ดีและสอดคล้องกับข้อกำหนดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และระเบียบที่เกี่ยวข้อง และ บริษัทฯ จะเข้าทำสัญญาประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Data Processing Agreement) กับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งมีข้อกำหนดที่ชัดเจนในการให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลต้องใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ นอกจากนี้ บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด (ถ้ามี) โดยคำนึงถึงอายุความตามกฎหมายสำหรับการดำเนินคดีที่อาจเกิดขึ้นหรือเกี่ยวข้องกับเอกสารหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมไว้ในแต่ละรายการ โดยคำนึงถึงแนวปฏิบัติของบริษัทฯ เป็นสำคัญ หลังจากครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น บริษัทฯ จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว จากการจัดเก็บหรือระบบของบริษัทฯ และของบุคคลอื่นซึ่งให้บริการแก่บริษัทฯ (ถ้ามี) หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ เว้นแต่จะเป็นกรณีที่บริษัทฯ สามารถเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ต่อไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด
- การรักษาความมั่นคงปลอดภัย
เพื่อประโยชน์ในการรักษาความลับ และความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ ได้มีมาตรการดังนี้
- กำหนดสิทธิในการเข้าถึง การใช้ การเปิดเผย การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการแสดงหรือยืนยันตัวบุคคล ผู้เข้าถึง หรือผู้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ตามแนวนโยบายสารสนเทศของบริษัทฯ อย่างเคร่งครัด
- ในการส่ง การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บบนฐานข้อมูลในระบบอื่น ผู้ให้บริการต้องมีสัญญา หรือมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เทียบเท่าหรือดีกว่าตามประกาศฉบับนี้
- ในกรณีที่มีการฝ่าฝืนมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของบริษัทฯ จนเป็นเหตุให้มีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล หรือข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหลสู่สาธารณะ บริษัทฯ จะดำเนินการแจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบโดยเร็ว บริษัทฯ จะประเมินความเสี่ยงและจัดทำมาตรการเพื่อบรรเทาความเสี่ยงและลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบในกรณีความเสียหายใด ๆ อันเกิดจากการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลที่สาม รวมถึงการละเลยหรือเพิกเฉยต่อการออกจากระบบ (Log out) ฐานข้อมูล หรือระบบสื่อสาร สังคมออนไลน์ของบริษัทฯ โดยการกระทำของเจ้าของข้อมูล หรือบุคคลอื่นซึ่งได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล
- บริษัทฯ มีการดำเนินการสอบทาน และประเมินประสิทธิภาพของระบบรักษาข้อมูลส่วนบุคคล โดยหน่วยงานตรวจสอบภายใน
- สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการดำเนินการ ดังต่อไปนี้
8.1 สิทธิในการขอถอนความยินยอม
ในกรณีที่บริษัทฯ มีการขอและได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตามวัตถุประสงค์ที่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการแจ้งขอถอนความยินยอมได้ทุกเมื่อ โดยแจ้งความประสงค์ดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรมายังบริษัทฯ
8.2 สิทธิในการขอเข้าถึงและรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอเข้าถึงและรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้จัดเก็บไว้ได้ ทั้งนี้โดยเป็นไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
8.3 สิทธิในการขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้รับจากแหล่งอื่น
ในกรณีที่บริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่นซึ่งไม่ใช่จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง หากบริษัทฯ จะใช้ข้อมูลดังกล่าวบริษัทฯ จะดำเนินการแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบภายใน 30 วันนับจากวันที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว (เว้นแต่เป็นกรณีที่กฎหมายยกเว้นให้ไม่ต้องแจ้ง) ในกรณีนี้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถสอบถามและขอให้บริษัทฯ เปิดเผยแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
8.4 สิทธิในการขอรับ และขอให้บริษัทฯ โอนย้าย หรือส่งต่อข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
ในกรณีที่บริษัทฯ มีการปรับให้ข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้โดยอุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถส่งต่อได้โดยวิธีการอัตโนมัติ
การโอนย้ายหรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลตามข้อนี้ หมายถึงกรณีที่ข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถูกจัดเก็บอยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งการส่งต่อนั้นสามารถทำได้ผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถอ่านข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น ไม่รวมถึงการให้บริษัทฯเป็นผู้นำส่ง หรือจัดส่งข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบอื่น
8.5 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ในกรณีต่อไปนี้ โดยแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรให้บริษัทฯ ทราบ
- การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นการเก็บรวบรวมได้โดยได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอมเนื่องจากเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
- กรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง
8.6 สิทธิในการขอให้บริษัทฯ ลบหรือทำลาย
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถแจ้งให้บริษัทฯ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ไว้กลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีดังต่อไปนี้
- เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ตามวัตถุประสงค์
- เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และบริษัทฯ ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
- เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล และบริษัทฯ ไม่มีเหตุผลที่จะใช้ปฏิเสธคำขอได้ หรือ
- เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
8.7 สิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถแจ้งให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ทันที โดยแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรให้บริษัทฯ ทราบ ในกรณีดังต่อไปนี้
- เมื่อผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ในระหว่างการตรวจสอบความถูกต้อง ครบถ้วน หรือปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลนั้นให้เป็นข้อมูลปัจจุบันตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
- เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอาจถูกลบ หรือทำลายได้ แต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแจ้งขอให้ระงับการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลนั้น แทนการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
- เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลนั้นหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้นแล้ว แต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีความจำเป็นต้องขอให้เก็บรักษาไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือ
- เมื่อบริษัทฯ อยู่ในระหว่างการพิจารณาการใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
8.8 สิทธิในการขอให้บริษัทฯปรับปรุงข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ และเป็นข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน
ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ไว้กับบริษัทฯ หรือที่บริษัทฯได้เก็บรวบรวมไว้ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถแจ้งให้บริษัทฯ ดำเนินการแก้ไข ปรับปรุงข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
8.9 สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลพบว่าบริษัทฯ และ/หรือ ลูกจ้างของบริษัทฯ มีการดำเนินการใด ๆ ที่ฝ่าฝืนหรือไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถแจ้งการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องนั้นมายังบริษัทฯ และ/หรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องได้ ตามรายละเอียดที่ปรากฏในช่องทางการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ เมื่อบริษัทฯ ได้รับแจ้งความประสงค์ในการใช้สิทธิจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จะพิจารณาคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อดำเนินการที่เหมาะสมทั้งนี้ภายในไม่เกิน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอ อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
- การใช้คุกกี้ (Cookie) เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล
- คุกกี้ (Cookie) คือ ไฟล์รูปแบบหนึ่งที่ประกอบไปด้วยข้อความอักษร (Text) คุกกี้ (Cookie) จะถูกสร้างขึ้นเมื่อผู้ใช้งานเข้าถึงเว็บไซต์ (Website) ซึ่งเซิร์ฟเวอร์ (Server) มีการสร้างคุกกี้ไว้ โดยคุกกี้ (Cookie) จะถูกบันทึกลงบนบราวเซอร์ (Browser) ของท่านเมื่อท่านแวะเข้าชมเว็บไซต์นั้นๆ ซึ่งเนื้อหาในคุกกี้จะสามารถเรียกออกมาดูหรืออ่านได้โดยเซิร์ฟเวอร์ (Server) ที่สร้างคุกกี้ดังกล่าวเท่านั้น และเนื้อหาดังกล่าวจะถูกส่งกลับไปยังเว็บไซต์ (Website) ต้นทางในการเยี่ยมชมแต่ละครั้ง ข้อความที่อยู่ในคุกกี้ (Cookie) มักประกอบด้วยข้อมูลระบุตัวตน ชื่อเว็บไซต์ รวมถึงตัวเลข และตัวอักษรบางอย่าง โดยคุกกี้จะมีการจัดเก็บรายละเอียดพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์และสิ่งที่ถูกเลือกถึงบ่อยโดยเจ้าของข้อมูลและบราวเซอร์ (Browser) ของเจ้าของข้อมูล
เจ้าของข้อมูลสามารถพิจารณารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายเกี่ยวกับการใช้งานคุกกี้เพื่อการเก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลของท่านได้
- เว็บไซต์อื่น
เว็บไซต์นี้อาจมีตัวเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่น หากเจ้าของข้อมูลได้กด link ไปยังเว็บไซต์อื่นอาจเป็นการอนุญาตให้บุคคลภายนอกเก็บรวบรวมและเผยแพร่ข้อมูลของเจ้าของข้อมูลได้ บริษัทฯ ไม่ได้มีการควบคุมเว็บไซต์อื่นเหล่านั้นและไม่มีความรับผิดชอบต่อคำแถลงความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์เหล่านั้น เมื่อท่านออกจากเว็บไซต์ของบริษัทฯ แนะนำให้เจ้าของข้อมูลอ่านประกาศความเป็นส่วนตัวของทุกเว็บไซต์ที่ท่านได้เยี่ยมชม
9.1 คุกกี้คืออะไร
คุกกี้ คือ ไฟล์ข้อความขนาดเล็กที่ถูกดาวน์โหลดไปยังอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์มือถือของท่าน ซึ่งทำหน้าที่บันทึกข้อมูลและการตั้งค่าต่าง ๆ เช่น บันทึกข้อมูลการตั้งค่าภาษาในอุปกรณ์บนอุปกรณ์ของท่าน บันทึกสถานะการเข้าใช้งานในปัจจุบันของท่าน เพื่อช่วยให้ท่านสามารถเข้าใช้งานเว็บไซต์และ/หรือแอปพลิเคชัน (รวมเรียกว่า “บริการ”) ได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการเข้าใช้งานบริการที่ท่านชื่นชอบในรูปแบบไฟล์ โดยคุกกี้ไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายต่ออุปกรณ์ของท่าน และเนื้อหาในคุกกี้จะถูกเรียกออกมาดูหรืออ่านได้โดยบริการที่สร้างคุกกี้ดังกล่าวเท่านั้น
9.2 ประโยชน์ของคุกกี้
เพื่อให้บริษัท QTC Energy ทราบว่าท่านเข้าใช้งานส่วนใดในบริการและสามารถมอบประสบการณ์การใช้บริการที่ดีขึ้นและตรงกับความต้องการของท่านได้ นอกจากนี้ การบันทึกการตั้งค่าแรกของบริการด้วยคุกกี้จะช่วยให้ท่านเข้าถึงบริการด้วยค่าที่ตั้งไว้ทุกครั้งที่ใช้งาน ยกเว้นในกรณีที่คุกกี้ถูกลบซึ่งจะทำให้การตั้งค่าทุกอย่างจะกลับไปที่ค่าเริ่มต้น
9.3 การใช้งานคุกกี้
QTC Energy ใช้คุกกี้และเทคโนโลยีอื่น บนบริการของ QTC Energy (รวมเรียกว่า “บริการที่อ้างอิงนโยบายการใช้คุกกี้”) ดังนั้น บริการใดก็ตามที่ท่านใช้เพื่อเข้าถึงบริการที่อ้างอิงนโยบายการใช้คุกกี้จะได้รับคุกกี้จาก QTC Energy
เมื่อท่านเข้าถึงบริการที่อ้างอิงนโยบายการใช้คุกกี้ คุกกี้ของ QTC Energy จะถูกดาวน์โหลดไปยังอุปกรณ์ของท่านเพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับรูปแบบการใช้และประวัติการใช้บริการ ข้อมูลหรือบริการที่ท่านสนใจ รวมถึงหมายเลขอ้างอิงการเข้าใช้บริการล่าสุดของท่าน เป็นต้น
นอกจากนั้น QTC Energy มีการใช้งานคุกกี้ร่วมกับเทคโนโลยีประเภทพิกเซลแท็ก เพื่อทราบถึงรูปแบบการใช้และประวัติการใช้บริการ ข้อมูลหรือบริการที่ท่านสนใจ และนำไปวิเคราะห์ เพื่อพัฒนาการให้บริการ แสดงเนื้อหา โฆษณา หรือประชาสัมพันธ์กิจกรรมที่เหมาะสมรวมถึงการบริการต่าง ๆ ที่ตรงกับความสนใจของท่าน เพื่อเพิ่มความพึงพอใจให้แก่ท่านได้มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม QTC Energy จะใช้งานคุกกี้ภายใต้รายละเอียดที่ระบุในคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
สำหรับประเภทคุกกี้ที่ QTC Energy ใช้งาน สามารถแบ่งประเภทได้ดังนี้
- 9.3.1 คุกกี้เพื่อการให้บริการ
คุกกี้เพื่อการให้บริการจะช่วยให้ท่านสามารถใช้บริการ และ/หรือเข้าถึงฟังก์ชันต่าง ๆ ได้ เช่น คุกกี้ที่จัดการเรื่องการเข้าสู่ระบบ (Login) และสถานะการเข้าสู่ระบบของท่าน - 9.3.2 คุกกี้ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการใช้บริการ
คุกกี้ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการใช้บริการจะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ท่านในการใช้บริการ รวมทั้งช่วยให้QTC Energy รู้จักท่านมากยิ่งขึ้น โดยQTC Energy จะใช้ข้อมูลดังกล่าวนี้ในการนำเสนอและพัฒนาสินค้าและ/หรือบริการของ QTC Energyให้ตรงกับความสนใจของท่านต่อไป
ตัวอย่างการอำนวยความสะดวกแก่ท่านในการใช้บริการด้วยคุกกี้ประเภทนี้ คือ
- ช่วยจำสถานะของการใช้บริการ เช่น ภาษาที่เลือกใช้
- ช่วยจำคำตอบที่ท่านเคยตอบไปแล้ว ซึ่งจะช่วยให้ท่านไม่ต้องตอบคำถามเดิมซ้ำอีก
- ให้บริการ LiveChat บนเว็บไซต์ของQTC Energy
- ให้บริการฟังก์ชัน Social Media Sharing ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถแบ่งปันเนื้อหาที่สนใจบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network)
ทั้งนี้ เพื่อการให้บริการและเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ท่านในการใช้บริการตามตัวอย่างข้างต้น
QTC Energy มีการใช้งานโปรแกรมเสริม (Plugin) และบริการของบุคคลที่สาม เช่น Google Analytics, Facebook Analytics, Truehits, Hotjars, Facebook, Line, Twitter, และ AddThis
9.4 วิธีปิดการทำงานของคุกกี้
ท่านสามารถปิดการทำงานของคุกกี้ได้ โดยการตั้งค่าเบราว์เซอร์ของท่าน และตั้งค่าความเป็นส่วนตัวเพื่อระงับการรวบรวมข้อมูลโดยคุกกี้ในอนาคต (รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถศึกษาได้จาก AboutCookies.org)
อย่างไรก็ตาม บริการบางอย่างบนเว็บไซต์ของQTC Energy จำเป็นต้องมีการใช้คุกกี้ หากท่านปิดการทำงานคุกกี้อาจทำให้ท่านใช้งานฟังก์ชันบางอย่างหรือทั้งหมดของบริการดังกล่าวได้อย่างไม่ราบรื่น
- การทบทวนนโยบาย
บริษัทฯ อาจทำการเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ที่สำคัญใดๆ พร้อมกับประกาศฯ ฉบับปรับปรุง ผ่านช่องทางที่เหมาะสม
- ช่องทางการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
แผนกตรวจสอบภายใน
บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน)
เลขที่ 2/2 ซ. กรุงเทพกรีฑา 8 แยก 5 ถนนกรุงเทพกรีฑา แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพ 10240
โทรศัพท์ : 0-2379-3089-92 ต่อ 432
โทรสาร : 0-2379-3099
อีเมล : Internalaudit@qtc-energy.com
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลประสงค์จะติดต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
โทรศัพท์ : 02 141 6985 ถึง 99
ที่อยู่ : ชั้น 7 อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210
© 2022 QTC ENERGY All rights reserved.