” การบริหารความเสี่ยง “

       การบริหารความเสี่ยงนับเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นในลำดับต้นๆ ของการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ความเปลี่ยนแปลงทางสังคมและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเหตุการณ์วิกฤติต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา นับเป็นเรื่องที่มีความยากมากขึ้นเรื่อย ๆ ในการควบคุมไม่ให้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจเนื่องจากเป็นปัจจัยภายนอก ทำให้ต้องปรับตัวและลดความเสี่ยงที่คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อให้การดำเนินงานและผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมาย การประเมินเพื่อลด “ความเสี่ยง” ถือเป็นการสร้างโอกาสให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน
       คิวทีซี จึงตระหนักดีว่าการดำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ รักษาไว้ซึ่งพันธกิจ ตามวิสัยทัศน์องค์กรในการก้าวขึ้นสู่บริษัทชั้นนำของโลก (World Calss) และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้เสียนั้น มีความท้าทายภายใต้การวิวัฒน์ทางด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สังคม และสิทธิมนุษยชน ซึ่งอาจสร้างโอกาสที่ดี หรือสร้างผลกระทบทางลบต่อการดำเนินธุรกิจไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม ดังนั้น คิวทีซีจึงให้ความสำคัญต่อการบริหารความเสี่ยงองค์กรในทุก ๆ ด้าน ครอบคลุมมิติทางด้านเศรษฐกิจสิ่งแวดล้อม สังคม และสิทธิมนุษยชน ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการส่งเสริมความยั่งยืนและบริหารความเสี่ยงองค์กร , คณะกรรมการตรวจสอบ และคณะกรรมการบริษัท 
       นโยบายการบริหารความเสี่ยงองค์กร https://qtc-energy.com/th/risk-management-policy-2/

กระบวนการบริหารความเสี่ยงองค์กร

บริษัทฯได้จัดทำคู่มือการบริหารความเสี่ยงองค์กรไว้เป็นแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนตามกรอบมาตรฐานการบริหารความเสี่ยง ERM-COSO โดยกำหนดให้มีการทบทวนความเสี่ยงด้วยการสำรวจสภาพแวดล้อมหรือบริบทองค์กรต่อสถานการณ์ต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป และดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนที่กำหนด รับผิดชอบโดยคณะกรรมการส่งเสริมความยั่งยืนและบริหารความเสี่ยงองค์กร พร้อมทั้งรายงานต่อคณะกรรมการตรวจสอบ และกรรมการบริษัทไตรมาสละ 1 ครั้ง

โครงสร้างคณะกรรมการส่งเสริมความยั่งยืนและบริหารความเสี่ยงองค์กร

การดำเนินงานในปี 2565

• คณะกรรมการบริหารความเสี่ยงจัดให้มีกระบวนการบริหารความเสี่ยงประจำปี 2565 จำนวน 4 ครั้งตามรอบที่กำหนด
• ความเสี่ยงที่สำคัญซึ่งมีนัยสำคัญต่อวัตถุประสงค์องค์กรจำนวน 5 ด้าน 14 เรื่อง โดยมีรายละเอียดความเสี่ยงที่สำคัญดังนี

ความเสี่ยงที่สำคัญ

1. ความเสี่ยงด้านกลยุทธ์ทางธุรกิจ Strategic Risk

หัวข้อความเสี่ยง มาตรการและผลการดำเนินงาน
การพึงพิงลูกค้ารายใหญ่ ในธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่ของธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้ามาจากการประมูลงานภาครัฐ ซึ่งมีความไม่แน่นอนทางการเมืองส่งผลต่อการใช้งบประมาณรายจ่ายภาครัฐ และมีคู่แข่งขันในตลาดมากซึ่งเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้บริษัทฯ ได้กำหนดกลยุทธ์และสร้างมาตรการเพื่อควบคุมและลดความ
เสี่ยงไว้ดังนี้
•  มีหน่วยงานและผู้รับผิดชอบโดยตรงเกี่ยวกับงานขายราชการ พร้อมกำหนดบทบาทหน้าที่ที่ชัดเจน
•  ปรับปรุงมาตรฐานการผลิต และกระบวนการบริหารจัดการ เพื่อลดต้นทุน ภายใต้คุณภาพมาตรฐานสากล และมีความรับผิดชอบ
•  ขยายตลาดต่างประเทศด้วยการผลิตแบบ OEM ปัจจุบันมี2 กลุ่มประเทศได้แก่ออสเตรเลียและญี่ปุ่น (ไม่สามารถกล่าวอ้างชื่อแบรนด์ได้) เป็นความลับทางการค้า
•  ตั้งตัวแทนขายในต่างประเทศจำหน่ายภายใต้แบรนด์QTC เพื่อเพิ่มช่องทางการขาย
•  พัฒนาผลิตภัณฑ์หม้อแปลงประหยัดพลังงาน (Super Low Loss) และ Smart Transformer สร้างความแตกต่างเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้า
•  ขยายฐานลูกค้ากลุ่มงานบริการบำรุงรักษาหม้อแปลงไฟฟ้า
•  เพิ่มการขายผลิตภัณฑ์กลุ่มพลังงานสะอาดไฟฟ้า (เป็นตัวแทนจำหน่าย)
•  ปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการลูกค้าที่มีความหลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ มากขึ้น
การดำเนินงานในปี 2565 มีอัตรากำไรสุทธิจากการดำเนินงาน (เฉพาะกิจการ) 8.38%
รายละเอียดดูเพิ่มเติมหัวข้อ “เศรษฐกิจ” และรายงานทางการเงินใน 56-1 One Report
การลงทุนในธุรกิจอื่น เพื่อกระจายความเสี่ยงการลงทุนในธุรกิจด้านพลังงานที่มีความเชื่อมโยงกับธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้าโดยผ่านการดำเนินงานของบริษัท คิวทีซีโกบอล เพาเวอร์(จำกัด) : QTCGP ซึ่งเป็นบริษัทย่อยและธุรกิจด้านพลังงานเป็นธุรกิจซึ่งบุคลากรส่วนใหญ่ของ คิวทีซีไม่มีความถนัด บริษัทฯ จึงมี
มาตรการป้องกันความเสี่ยงดังนี้
•  ว่าจ้างที่ปรึกษาเฉพาะทางภายนอก เพื่อศึกษารายละเอียดโครงการ ที่จะเข้าลงทุน ครอบคลุมด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม
•  การลงทุนใด ๆ ในธุรกิจอื่นต้องผ่านกระบวนการเห็นชอบจากคณะกรรมการบริษัท และมติของผู้ถือหุ้นการดำเนินงานในปี 2565 โครงการ EV Charging Stationร่วมกับบริษัท PPWE จำนวน 4 สถานี
•  อยู่ระหว่างดำเนินการ 2 สถานี
•  เปิดให้บริการแล้ว 2 สถานทีคือสถานีปั้มคาลเท็กส์ศรีพลังโนนสูง และสถานีปั้มคาลเท็กส์
วิภัชรุ่งเรืองแต่เนื่องจากพบปัญหาของระบบปัจจุบันได้ปิดบริการชั่วคราวเพื่อทำการปรับปรุง

2. ความเสี่ยงด้านการเงิน Financial Risk

หัวข้อความเสี่ยง มาตรการและผลการดำเนินงาน
ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และความผันผวนของราคาวัตถุดิบ เนื่องจากการผลิตหม้อแปลงไฟฟ้ามีความจำเป็นต้องนำเข้าวัตถุดิบหลักจากต่างประเทศเป็นสัดส่วน60% ของมูลค่าวัตถุดิบที่ใช้ต่อปีและมีการส่งออกหม้อแปลงเป็นสัดส่วน 20-30% ของยอดขาย อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และราคาวัตถุดิบเช่นทองแดง เหล็กซิลิกอน มีความผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจโลก และสถานการณ์โลกสำคัญๆ บริษัทฯจึงมีมาตรการป้องกันความเสี่ยงดังนี้
•  นโยบายซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า Forward Contract
•  ติดตามการเปลี่ยนแปลงของราคาวัตถุดิบหลักอย่างใกล้ชิด เช่นทองแดง เหล็กซิลิกอน และน้ำมันหม้อแปลง และทำการจองซื้อวัตถุดิบล่วงหน้า หากเห็นโอกาสได้เปรียบทางการค้า
การดำเนินงานในปี 2565 ค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 จนมาถึงช่วงปลายปีเงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้น ทำให้บริษัทฯมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 2.48 ล้านบาท และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน-การทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Forward Contract) จำนวน 0.23 ล้านบาท
ความเสี่ยงในการบริหารลูกหนี้ เนื่องจากการแข่งขันทางการค้าปัจจุบัน ทำให้ต้องมีการให้สินเชื่อแก่ลูกค้า เพื่อความได้เปรียบในการแข่งขัน ในขณะเดียวกันหากลูกค้าที่บริษัทฯให้สินเชื่อไปนั้น ขาดวินัยทางการเงิน ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงในการชำระหนี้ก่อให้เกิดเป็นหนี้ค้างชำระ ทำให้บริษัทฯไม่ได้รับเงินตรงตามเวลาที่กำหนด ส่งผลกระทบต่อการบริหารสภาพคล่องทางการเงิน บริษัทฯ จึงมีมาตรการควบคุมและป้องกันดังนี้
•  ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (เป็นค่าใช้จ่ายทางบัญชีบันทึกภายใต้ค่าใช้จ่ายในการบริหาร) หรือการวัดมูลค่าผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น โดยบริษัทฯได้ใช้วิธีอย่างง่าย (Simplified Approach) ในการวัดมูลค่าผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นตลอดอายุ
หนี้และรับรู้ผลขาดทุนตั้งแต่การรับรู้รายการลูกหนี้การค้าและสินทรัพย์ที่เกิดจากสัญญา
•  ปรับนโยบายการให้เครดิตลูกค้า กำหนดหลักเกณฑ์ในการประเมินการให้เครดิตลูกค้าอย่างชัดเจน
•  กรณีลูกค้าไม่ผ่านหลักเกณฑ์การให้เครดิต กำหนดให้ขายเป็นเงินสด
•  มีนโยบายการเร่งรัดและติดตามหนี้ค้างนานเกิน 1 ปีโดยการทำสัญญาผ่อนชำระเป็นรายงวดการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทฯสามารถควบคุมระยะเวลาการรับชำระหนี้เหลือ 60 วัน โดยลดลงอย่างต่อเนื่องจากปี2564 และ 2563 โดยลูกหนี้การค้าสุทธิ(ก่อนหักค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น) ในปี2565จำนวน 205.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี2564 ซึ่งมีจำนวน 166.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 23.51 ลูกหนี้ค้างชำระเกิน 1 ปีเพิ่มขึ้นจากปี2564 เป็นจำนวน 7.76 ล้านบาท และค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น เพิ่มขึ้นจากปี 2564 เป็นจำนวน 1.58 ล้านบาท
เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 มีผลกระทบต่อสภาพคล่องของลูกค้าที่เป็นลูกค้าชั้นดีทำให้ไม่สามารถชำระหนี้ระยะสั้นได้รวมถึงลูกหนี้ที่มีหนี้ค้างชำระเกิน 1 ปีไม่สามารถผ่อนชำระหนี้ได้ตามสัญญาที่ตกลงทำไว้กับบริษัทฯ รวมถึงมีลูกหนี้ที่เกินกว่า 1ปีเพิ่มขึ้นในรอบปี2565 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจ ซึ่งบางรายได้ปิดกิจการไปแล้ว ทั้งนี้บริษัทฯยังคงเร่งติดตามหนี้ค้างนานเกิน 1 ปีโดยสามารถเรียกชำระได้ในปี 2565 เป็นจำนวน 2.58 ล้านบาท

3. ความเสี่ยงด้านการปฏิบัติ Operational Risk

หัวข้อความเสี่ยง มาตรการและผลการดำเนินงาน
สุขภาพและความปลอดภัยในการทำงาน เนื่องจากสภาพการทำงานของพนักงานเกี่ยวข้องกับการใช้เครื่องมือ เครื่องจักร สารเคมีและมีกระบวนการทำงานที่เป็นขั้นตอน และโรงงานตั้งอยู่ร่วมกับชุมชนซึ่งมีอายุกว่า 20 ปีอาจเกิดอุบัติเหตุที่ส่งผลกระทบต่อพนักงาน และชุมชนได้บริษัทฯ จึงได้กำหนดมาตรการป้องกันไว้ดังนี้
•  บริหารจัดการด้านความปลอดภัยด้วยระบบมาตรฐาน ISO45001
•  กำหนดมาตรฐานการทำงานที่ปลอดภัย และ PPE อย่างเหมาะสม การซ่อมบำรุงเครื่องจักรตามระยะ
•  ตรวจรับรองระบบไฟฟ้า และอาคาร โดยผู้เชี่ยวชาญภายนอก
•  ติดตั้งระบบเตือนภัยอัตโนมัติกรณีเกิดเพลิงไหม้
•  ฝึกอบรมดับเพลิง และอพยพหนีไฟ
•  กระตุ้นจิตสำนึกความปลอดภัยด้วยกิจกรรม KYT
•  จัดกิจกรรมสัปดาห์ความปลอดภัย เพื่อให้ความรู้สร้างความตระหนักแก่พนักงาน และชุมชน
•  มีคณะกรรมการความปลอดภัย (คปอ.) จากการเลือกตั้งเป็นตัวแทนลูกจ้างร่วมพิจารณาแนวทางการดำเนินงานด้านความปลอดภัย
•  โครงการส่งเสริมสุขภาพ เพื่อลด ละ เลิก บุหรี่ เหล้า และสวัสดิการฉีดวัคซีนป้องกันโรคตามสถานการณ์ที่ระบาด
การดำเนินงานในปี 2565 มีจำนวนอุบัติเหตุดลงจากปี2564 คิดเป็น 28% ไม่บรรลุเป้าหมาย
Zero Accident รายละเอียดการดำเนินงาน และมาตรการป้องกันแก้ไขติดตามในรายงานความ
ยั่งยืน “ประเด็นความปลอดภัย และสุขภาพของพนักงาน”
การไหลออกของวิศวกร และช่างฝีมือในตำแหน่งงานสำคัญ เนื่องจากโรงงานตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันด้านแรงงานค่อนข้างสูง ตั้งแต่พนักงานระดับใช้แรงงาน ถึงระดับวิชาชีพ บริษัทฯ ได้วางมาตรการควบคุมและป้องกันที่สำคัญไว้ดังนี้
•  ปรับโครงสร้างค่าจ้างและผลประโยชน์ของพนักงานอย่างเหมาะสม โดยเทียบกับอุตสาหกรรมเดียวกัน
•  ปรับระบบการประเมินผลและการจ่ายค่าตอบแทนอย่างเป็นธรรม
•  การพัฒนาบุคลากรรายบุคคลตามเส้นทางอาชีพ IDP
•  จัดทำ KM ที่สำคัญ ของบริษัทฯ และสร้างสูญการเรียนรู้แบบ On-line
•  สร้างสุขภาวะองค์กร ตามแนวทาง Happy 8
การดำเนินงานในปี 2565 มีอัตราการลาออกของพนักงานกลุ่มฝีมือแรงงานคิดเป็น 1.53% และอัตราการลาออกของพนักงานทั้งหมดอยู่ที่11.24% ลดลงจากปี2564 8.45%
การพึ่งพิงผู้บริหารหลักในการดำเนินธุรกิจ การบริหารงานในบริษัท โดยผู้นำส่วนใหญ่เป็นผู้มีประสบการณ์เฉพาะทางหม้อแปลงไฟฟ้า และติดเป็นแบรนด์ของสินค้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้มีส่วนได้เสีย ในอนาคตหากมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เกี่ยวกับผู้นำองค์กรอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น ของผู้มีส่วนได้เสียที่สำคัญ เช่นผู้ถือหุ้น พนักงาน บริษัทฯ จึงได้มีมาตรการป้องกันไว้ดังนี้
•  จัดทำแผนสืบทอดตำแหน่ง (succession plan) และคัดเลือกผู้สืบทอด
•  ส่งเสริมภาวะผู้นำ และพัฒนาทักษะผู้สืบทอด ตาม Career Path
•  ส่งเสริมการทำตลาดโดยใช้แบรนด์สินค้า และมาตรฐานโรงงานเป็นตัวนำ
การดำเนินงานในปี 2565 บริษัทฯ ได้ส่งบุคลากรในระดับสำคัญ ๆ พัฒนาทักษะ ความรู้ความสามารถ ที่จำเป็นเพิ่มเติม ตามแนวทางการพัฒนาแผนสืบทอด ดูรายละเอียดในหัวข้อ Career path Development & Succession Plan
การจัดการของเสียอันตราย และวัสดุเหลือใช้จากการผลิต ในกระบวนการผลิต และการให้บริการหม้อแปลงไฟฟ้าของบริษัทฯ มีวัสดุเหลือใช้จากการผลิตและของเสียอันตรายที่ต้องควบคุมการกำจัดตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม โดยการกำจัดจะผ่านบริษัทผู้รับกำจัด ผู้รับกำจัดดำเนินการตามวิธีที่กรมโรงงานฯ กำหนด แต่อาจมีความเสี่ยง
ที่ผู้รับกำจัดขาดความรับผิดชอบไม่ดำเนินการตามเงื่อนไข ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม บริษัทฯจึงได้กำหนดมาตรการควบคุม และป้องกันไว้ดังนี้
• ขออนุญาตและขึ้นทะเบียนบริษัทผู้รับกำจัด แยกตามประเภทของของเสียจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม
• ทีมงานเข้าตรวจประเมินพื้นที่และวิธีกำจัด ณ พื้นที่ของผู้รับกำจัด
• ควบคุมการขนย้าย และการบรรจุเพื่อป้องกันการหกรั่วไหลก่อนออกจากโรงงาน
• คัดแยกขยะขายได้ขายไม่ได้โดยใช้หลักการ 3Rs
• Zero Landfill โดยการการบริหารจัดการขยะประเภทฝังกลบ ส่งเข้าโรงงานผลิตไฟฟ้า
การดำเนินงานในปี 2565 สามารถดำเนินการนำขยะประเภทฝังกลบเข้าสู่กระบวนการผลิตไฟฟ้าได้100% เป็น Zero Landfill 100% และไม่มีกรณีร้องเรียนผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากกระบวนการจัดการของเสียอันตราย และวัสดุเหลือใช้จากการผลิต ผลการดำเนินงานสามารถติดตามได้จากรายงานความยั่งยืน 2565 หัวข้อ“การจัดการของเสียและวัสดุเหลือใช้จากการผลิต

4. ความเสี่ยงด้านการปฏิบัติตามกฎหมาย Compliance Risk

หัวข้อความเสี่ยง มาตรการและผลการดำเนินงาน
การปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ลักษณะธุรกิจผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าเป็นโรงงานอุตสาหกรรม มีการผลิต ซ่อมแซม จำหน่าย บริการให้กับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนทั้งภายในและภายนอกประเทศ จึงมีกฎหมาย ข้อกำหนดมากมายที่บริษัทฯ จะต้องปฏิบัติตามให้สอดคล้อง ซึ่งในตัวกฎหมาย หรือข้อกำหนดต่าง ๆ ก็จะ
มีการเปลี่ยนแปลงตามวาระตามสมัยเพื่อป้องกันความผิดพลาดในการดำเนินธุรกิจ บริษัทฯ ได้กำหนดมาตรการป้องกันไว้ดังนี้
•  กำหนดผู้รับผิดชอบในการติดตาม รวบรวม ประเมินความสอดคล้องของกฎหมาย และข้อกำหนดทางการค้า จากช่องทางที่เหมาะสม เช่น ราชกิจจานุเบกษา ประกาศต่าง ๆ
•  จัดทำเป็นขั้นตอนการปฏิบัติงาน การประเมินความสอดคล้องของกฎหมาย และข้อกำหนดเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติครอบคลุมทั้งองค์กร
•  หน่วยงาน Document Controlจัดทำเป็นทะเบียนกฎหมาย ข้อกำหนดทางการค้า ที่เกี่ยวข้องและรายงานต่อคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง ทุกไตรมาส
การดำเนินงานในปี 2565 ไม่มีประเด็นที่ปฏิบัติขัดต่อกฎหมาย แต่มีเพียงประเด็นที่อยู่ระหว่างปรับปรุงให้สอดคล้องต่อกฎหมายซึ่งเป็นรายการที่มีการปรับปรุงกฎหมายใหม่และมีระยะเวลาให้ดำเนินการได้ตามกฎหมาย และมีแผนรองรับ
การคอร์รัปชัน ลักษณะธุรกิจผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าเป็นโรงงานอุตสาหกรรม มีการผลิต ซ่อมแซม จำหน่าย บริการซึ่งการปฏิบัติงานต่างๆ ต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของข้อกำหนด และกฎหมายที่เกี่ยวข้องและต้องมีการติดต่อ ประสานงาน ตลอดจนการนำส่งเงินค่าธรรมเนียม ค่าภาษีอากร การค้าขายกับหน่วย
งานภาครัฐ ซึ่งอาจเกิดช่องว่างให้เกิดการคอร์รัปชันได้บริษัทฯ ได้กำหนดมาตรการควบคุม และป้องกันไว้ดังนี้
• กำหนดนโยบายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน และแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง บังคับใช้ในบริษัทและบริษัทย่อยทุกแห่ง
• อบรม ให้ความรู้พนักงาน โดยกำหนดให้เป็นหลักสูตรความจำเป็นในการอบรมพนักงานจะต้องผ่านการอบรม 100% และผลการประเมินความเข้าใจมากกว่า 80%
• เข้าเป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต (CAC)
การดำเนินงานในปี 2565 ไม่มีเหตุการณ์หรือข้อร้องเรียน หรือการแจ้งเบาะแสการกระทำผิด
สิทธิมนุษยชน และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ลักษณะธุรกิจของ QTC Energy มีบริษัทลูกในเครืออีกหลายแห่ง กิจกรรมทางธุรกิจมีทั้งภาคการผลิต ซื้อมา-ขายไป การลงทุนในโครงการต่างๆ ซึ่งในแต่ละกิจกรรมทางธุรกิจย่อมทำให้เกิดห่วงโซ่คุณค่าทางธุรกิจ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ มีผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องมากมายในห่วงโซ่คุณค่านี้และด้วยวิสัยทัศน์องค์กรที่แสดงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และมีธรรมาภิบาลและต้องการนำองค์กรสู่ระดับ World Classจึงให้ความสำคัญในประเด็นทางสังคมที่ทั่วโลกให้ความสนใจและกังวล«สิทธิมนุษยชน»และ “การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” บริษัทฯได้ดำเนินการประเมินความเสี่ยงและผลกระทบอย่างรอบด้านพร้อมกำหนดมาตรการควบคุม และป้องกันไว้ดังนี้
• ประกาศนโยบายสิทธิมนุษยชน และนโยบายคุ้มครองครองมูลส่วนบุคคลสู่สาธารณะ
• จัดทำแนวทางปฏิบัติที่สอดคล้องกับนโยบายสิทธิมนุษยชน และ นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และบังคับใช้อย่างเคร่งครัด
• จัดอบรมพนักงาน และผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง
• ดำเนินการตรวจสอบตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (Human Rights Due Diligence : HRDD) ในห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ ตามหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจและสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติพร้อมทั้งมีการประเมินความเสี่ยงและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน เพื่อเฝ้าระวังไม่ให้ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมกับการละเมิดสิทธิซึ่งมักเกิดขึ้นในกรณีที่บริษัทรู้ดีหรือควรจะรู้ดีว่าพันธมิตรทางธุรกิจหรือคู่ค้าละเมิดสิทธิมนุษยชน เท่ากับว่าบริษัทมีส่วนทางอ้อม
ในการละเมิดสิทธิการดำเนินงานในปี 2565 ไม่มีเหตุการณ์ละเมิดสิทธิมนุษยชน และไม่มีเหตุการณ์ข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในหัวข้อ “การจ้างงาน และสิทธิมนุษยชน” และหัวข้อ “การควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล : PDPA”

5. ความเสี่ยงด้านการบริหารความต่อเนื่องของธุรกิจ Business Continuity Risk

หัวข้อความเสี่ยง มาตรการและผลการดำเนินงาน
ภาวะฉุกเฉิน เป็นความเสี่ยงจากภัยพิบัติต่าง ๆ เช่นน้ำท่วมสำนักงานใหญ่กรุงเทพฯ ไฟไหม้สำนักงานใหญ่หรือโรงงานจังหวัดระยอง หรือในบริษัทย่อยทุกแห่ง บริษัทฯได้วางมาตรการป้องกัน และเตรียมรับภาวะฉุกเฉินไว้ดังนี้
• จัดทำแผนป้องกัน และระงับอัคคีภัย และฝึกซ้อมทุกปี
• จัดทำแผนกู้คืนข้อมูลสารสนเทศ และทำการฝีกซ้อมแผนปีละ 1 ครั้ง
• ซื้อกรมธรรม์ที่มีความคุ้มครองความเสี่ยง
การดำเนินงานในปี 2565ไม่มีเหตุการณ์ภาวะฉุกเฉินที่ส่งผลกระทบต่อการหยุดชะงักของกิจการทั้งในบริษัทฯและบริษัทย่อย และบริษัทฯได้ดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด สม่ำเสมอ
ภัยคุกคามทางด้านไซเบอร์ เป็นความเสี่ยงที่เป็นภัยคุกคามด้านความปลอดภัยต่อการดำเนินงานของธุรกิจซึ่งมีแนวโน้มที่อาจจะเกิดขึ้นและสร้างความเสียหายให้กับข้อมูลสำคัญ ๆ ในการดำเนินธุรกิจ บริษัทฯ กำหนดนโยบายความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้องเพื่อการป้องกันความเสี่ยงไว้อย่างรัดกุม และรอบครอบ ให้ความรู้ความเข้าใจกับพนักงาน พร้อมเตรียมแผนสำรองไว้หากเกิดกรณีฉุกเฉินขึ้น
นโยบายความมั่นมคงปลอดภัยทางไซเบอร์:
https://qtc-energy.com/wp-content/uploads/2023/03/it-security-policy.pdf
การดำเนินงานในปี 2565
• ได้ทดสอบความเข้าใจของพนักงานโดยการสร้าง Phishing mail ให้พนักงานเพื่อดักจับพนักงานที่หลงกล และนำมาอบรมซ้ำดำเนินการได้ครบ 100% ซึ่งในระหว่างปี2565 ไม่มี Phishing mail ที่ถูกปล่อยมาจากภายนอกหลุดลอดเข้ามาในระบบ และไม่มีภัยคุกคามทางไซเบอร์อื่นเข้าสู่ระบบของ QTC
• ทดสอบภาวะฉุกเฉินกรณีภัยคุกคามทางไซเบอร์การดำเนินการทดสอบความเสี่ยงเป็นไปตามแผนและระยะเวลาการกู้คืนข้อมูลตามที่กำหนด
การแพร่ระบาดของโควิด-19 กิจกรรมในธุรกิจของบริษัท และบริษัทย่อย มีตั้งแต่กระบวนการขาย การจัดซื้อ การผลิต การส่งมอบ การสื่อสารทางการตลาด การรับรองลูกค้า การประชุมร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก ฯลฯ ซึ่งมีความจำเป็นต้องติดต่อสื่อสาร หรือประสานงานกับบุคคลภายนอกแบบFace to Face หรือเป็นหมู่คณะ เช่นลูกค้า ผู้ส่งมอบ ผู้รับเหมา สื่อมวลชน ฯลฯ ซึ่งอาจมีโอกาสได้รับเชื้อโควิด-19 ซึ่งบริษัทฯ ได้มีมาตรการป้องกัน และมาตรการแก้ไขไว้อย่างรอบครอบดังนี้
• จัดตั้งคณะกรรมการบริหารงานในภาวะวิกฤตโควิด-19 ขึ้น 1 ชุด โดยมีกรรมการผู้จัดการเป็นประธาน พร้อมกำหนดบทบาทหน้าที่ที่จำเป็นในการบริหารงานในภาวะวิกฤต
• จัดทำมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดครอบคลุมผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ทั้งในบริษัทฯ และบริษัทย่อยทุกแห่ง โดยพิจารณาจากคำแนะนำของกรมควบคุมโรค, ศบค.ส่วนกลาง และศบค.จังหวัด เช่นการคัดกรอง การใช้หน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่าง การทำงานที่บ้านในบางตำแหน่งงาน ฯลฯ โดยกำหนดไว้เป็นคู่มือปฏิบัติ
• สื่อสาร ทำความเข้าใจกับพนักงาน ให้ความรู้เกี่ยวกับเชื้อโรคโควิด-19
• ส่งเสริมให้พนักงานรับวัคซีนป้องกันโควิด-19อย่างทั่วถึงโดยการจัดหาวัคซีนทางเลือกเพิ่มเติม
• จัดทำมาตรการช่วยเหลือพนักงาน เช่น ช่วยค่าอาหารกลางวัน จัดแจกหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ จัดรถรับ-ส่งพนักงานจากบ้านถึงที่ทำงานกลุ่มพนักงานที่ใช้รถสาธารณะ จ่ายค่า Internet ให้พนักงานกลุ่มที่ทำงานจากที่บ้าน เนื่องจากพนักงานได้รับผลกระทบจากมาตรการป้องกันที่บริษัทฯ กำหนดขึ้น ซึ่งอาจไปจำกัดสิทธิบางประการของพนักงาน
• สื่อสาร ทำความเข้าใจกับลูกค้า , Supplier , ผู้รับเหมาและบุคคลภายนอก เกี่ยวกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของบริษัทฯ พร้อมให้การสนับสนุนในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารแทนการพบปะ Face to Face
• เพิ่ม Content สื่อสารทางการตลาดบนสื่อออนไลน์ให้มากขึ้น เพื่อการเข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่มแทนการพบปะแบบ Face to Face
• จัดทำแผนรองรับกรณีฉุกเฉินครอบคลุมทุกกระบวนการทำงาน หากจำเป็นต้องมีการหยุดกิจการชั่วคราว
• คู่มือปฏิบัติการในภาวะวิกฤตโควิด-19 สามารถ Download ได้ที่กล่องสีน้ำเงินด้านล่างของหน้าเว็บไซต์นี้
การดำเนินงานในปี 2565 มีพนักงานติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นแต่มีอาการไม่รุนแรง บริษัทฯสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และได้ยกเลิกคณะกรรมการบริหารงานในภาวะวิกฤตโควิด-19 พร้อมปิดความเสี่ยงนี้เข้าสู่ภาวะปกติเมื่อพฤศจิกายน 2565 โดยให้การปฏิบัติเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว

ข้อมูลการดำเนินงานตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19

© 2023 QTC ENERGY All rights reserved.